วิธีการแนวทางในการป้องกันตนเองจากนักต้มตุ๋น

 

1. อย่ารีบร้อนตอบรับ เมื่อมีคนมาชวนลงทุน หรือทำธุรกิจ จนกว่าจะได้    ปรึกษากับญาติสนิทหรือเพื่อนสนิท

2. อย่าปรึกษาเรื่องการเงินกับคนอื่นหรือคนแปลกหน้า ยกเว้นญาติสนิท    หรือเพื่อนสนิท
3. อย่าด่วนถอนเงินจำนวนมากๆ ออกจากธนาคารให้คนแปลกหน้า ไม่ว่าจะมี
   เหตุผลดีอย่างไร จนกว่าจะขอคำแนะนำจากญาติสนิทหรือเพื่อนสนิท
4. อย่ายอมให้คนแปลกหน้าเข้ามาในบ้านคุณ ไม่ว่าจะแบบใด อาทิเช่น
   พนักงานซ่อมแซมบ้าน (ช่างทาสี ช่างซ่อมหลังคาบ้าน ช่างซ่อมประตู)
   ช่างประปา ,ช่างไฟฟ้า ,ช่างโทรศัพท์ ,ช่างซ่อมโทรทัศน์, วีดีโอ
   ช่างซ่อมเครื่องยนต์ต่างๆ จนกว่า
5. คุณคุณตรวจสอบรู้ได้แน่นอนแล้วว่าเขาเป็นใคร หรือ ได้ปรึกษาเรื่องนี้
   กับญาติสนิท หรือเพื่อนสนิท
6. ระวังสินค้าหรือบริการราคาถูกมาก ที่เสนอขายโดยพนักงานขายที่น่าเชื่อถือ
   และคล่องแคล่ว
7. อย่าด่วนลงนามในเอกสารตามกฎหมายใดใด ที่สามารถผูกมัดตัวคุณกับผู้อื่น
   โดยมิได้รับคำแนะนำจากญาติสนิท เพื่อนสนิทหรือนักกฎหมาย
8. อย่าด่วนตัดสินใจทำอะไรที่เกี่ยวข้องกับทรัพย์สินหรือเงินทอง โดยมิได้
   รับคำแนะนำจากญาติสนิท หรือเพื่อนสนิท

วิธีการหลองลวง

แก๊งคนร้ายแบ่งเป็น  2  ส่วน  ส่วนที่หนึ่งคือคนชี้หมูกับคนเข้าหมูหรือจูงหมู  ส่วน นี้จะกระจายอยู่ทั่วไปตามอำเภอหรือจังหวัดต่างๆ  กระจายอยู่ทั่วไป  ทั่วประเทศ  อีกส่วนหนึ่ง คือกลุ่มคนร้ายที่แสดงบทบาทผู้จัดการ  เสี่ย  และเซียนพนัน  คนร้ายที่แสดงบทบาททั้ง  3  นั้น  มี คนหนึ่งเป็นหัวหน้าแก๊ง(  เป็นใครก็ได้)    ซึ่งแก๊งเหล่านี้มีอยู่ในเขตกรุงเทพมหานคร    และ จังหวัดใกล้เคียง    จำนวนประมาณ  30  แก๊งขึ้นไป  แต่ละแก๊งจะมีการพัฒนาอาชญากรรม  กล่าว คือ  ในแก๊งหนึ่งสมมุติว่าเสี่ยเป็นหัวหน้าแก๊ง  เมื่อได้ผลประโยชน์จาการหลวงลวงมา  หัวหน้า แก๊งก็อาจจะแบ่งให้ลูกน้องทั้งสอง  คือผู้จัดการและเซียนพนันคนละเล็กน้อย  เมื่อลูกน้องคน ใดคนหนึ่งมีปฏิภาณไหวพริบดี  เรียนเร็ว  รู้เร็วก็จะพัฒนาการแยกตัวออกไปตั้งแก๊งใหม่  โดย ตั้งตนเป็นหัวหน้าแก๊ง  และหาคนมาเล่นตามบทบาทที่ขาดไป
 
ความเชื่อมโยงระหว่างแก๊งส่วนที่  1  เป็นคนชี้หมูและคนเข้าหมู  กับแก๊งส่วนที่  2  ที่ เป็นผู้จัดการ  เสี่ยและเซียนพนันเปลี่ยนแปลงไปตามเงื่อนไขและผลประโยชน์  กล่าวคือ  ถ้า แก๊งส่วนชี้หมูและเข้าหมูไดส่วนแบ่งมาจากแก๊งส่วนที่เป็นผู้จัดการ  เสี่ย  และเซียนพนันมาก พอ  ก็จะติดต่อสัมพันธ์กันอยู่  แต่ถ้าได้ประโยชน์น้อยก็อาจจะเปลี่ยนไปติดต่อสัมพันธ์กับแก๊ง อื่นๆ  ที่ให้ผลประโยชน์มากกว่า  เช่น  แก๊งส่วนผู้จัดการ  เซียนพนัน  เสี่ย  ที่เล่นมานาน  ให้ผล ประโยชน์กับส่วนชี้หมูและเข้าหมูในอัตรา  60  ต่อ  40  คือ  ถ้าหลอกลวงได้เงินมา  100  บาท  ก็ แบ่งให้ส่วนชี้หมูและเข้าหมูเพียง  40  บาท  แต่ถ้าเกิดมีแก๊งเสี่ย  เซียนพนันและผู้จัดการที่ตั้ง ใหม่อีกกลุ่มหนึ่งให้ผลประโยชน์  50  ต่อ  50  ก็อาจจะเปลี่ยนแปลงมาติดต่อสัมพันธ์กับแก๊งนี้ ฉะนั้นกลุ่มคนร้ายแก๊งดังกล่าวจึงมีความเคลื่อนไหว  เปลี่ยนแปลงได้ตลอดเวลา
 
ความเชื่อมโยงระหว่างแก๊งต่างๆ  ในการที่ออกไปหลอกลวงต้มตุ๋นหมูนั้นมี พัฒนาการ  เปลี่ยนแปลงได้หลายรูปแบบอาทิเช่น  หัวหน้าแก๊งที่เป็นเสี่ย  เซียนพนัน  ผู้จัดการ   อาจจะไปได้หมูรายหนึ่ง  แล้วไม่สามารถที่จะออกไปหลอกลวงหมูรายนี้ได้  เพราะรู้จักคุ้นเคยกัน   ก็อาจปรับตัวลดลงมาเป็นกลุ่มผู้ขี้หมู  ซึ่งไม่ต้องการปรากฎตัวให้หมูเห็น  แล้วจัดหาคนเข้าไป จูงหมูหรือหลอกหมู  เอาไปให้แก๊ง  เสี่ย  เซียนพนัน  และผู้จัดการอีกแก๊งหนึ่งที่หมู่ไม่รู้จัก  ลง มาดำเนินการต้มตุ๋น
ตัวอย่างอุบายที่คนร้ายจะเข้าไปหลอกลวงผู้เสียหาย
 
1.    ขอซื้อที่ดิน  ถ้าบอกขายไว้แล้วยิ่งเป็นช่องทางที่ดีของคนร้ายที่จะสวมรอยเข้ามาติดต่อ
 
2.      ขอซื้อบ้านจัดสรร  ขอซื้อตึก  กรณีที่หมูหรือเหยื่อเป็นเจ้าของบ้านจัดสรร  หรือตึกแถว
 
3.      ขอซื้อเรือเดินทะเล  เรือประมง  เรือต่างๆ
 
4.    ขอซื้อเฟอร์นิเจอร์จำนวนมาก
 
5.    ขอให้เป็นคนกลางช่วยติดต่อ  จ้างขุดบ่อบาดาล
 
6.    ขอซื้อต้นยางพารา  หรือเป็นนายหน้าพาไปซื้อต้นยางพารา
 
7.    ขอซื้อเครื่องทำความเย็นจำนวนมาก
 
8.    ขอซื้อรถยนต์  รถบรรทุกต่างๆ  
 
9.    ติดต่อนักร้อง  นักแสดงที่มีเชื่อเสียงไปโชว์แสดงในพิธีต่างๆ  
ผลจาการติดต่อตามตัวอย่างอุบายที่ระบุดังกล่าว
 
คนร้ายพิจารณาดูแล้วเห็นว่าหมูไม่แว่ว  คือ  ไม่รู้เท่าทันแน่แล้วก็จะนัดหมายแก๊งส่วนที่  2   (ผู้จัดการ  เสี่ย  และเซียนพนัน  )  ที่ตนเองสัมพันธ์ติดต่ออยู่  เนื่องจากได้ผลประโยชน์พอใจ และกำหนดนัดหมายให้มาดำเนินการ  การนัดหมายนี้คนร้ายส่วนที่  2  จะนัดในวันที่ธนาคาร เปิดทำการ  ทั้งนี้โดยมีจุดมุ่งหมายที่จะหลอกให้หมูไปเบิกเงินจากธนาคารมาเล่นพนันเสียให้นั่นเอง
 
นอกจากนี้ยังกำหนดสถานที่ที่คนร้ายจะใช้เป็นสถานที่ทำการต้มตุ๋น  ซึ่งสถานที่แห่งนั้นจะต้องอยู่ห่าง จากบ้านของหมูมากพอสมควร  ส่วนใหญ่ห่างกันคนละอำเภอ  เพื่อป้องกันมิ ให้ญาติหรือคนรู้จักกับหมูมารู้เห็นหรือช่วยตักเตือนหมูได้ทันท่วงที                                 
 
สถานที่ที่คนร้ายจะใช้เป็นสถานที่ต้มตุ๋นนั้น  ส่วนใหญ่จะใช้ห้องพักของโรงแรมชั้นดี,   รีสอร์ท  บ้านพักตากอากาศหรือบังกาโล  เมื่อได้สถานที่แล้ว  คนร้ายก็จะนัดหมายให้คนร้ายแก๊งส่วน ที่  1  (คนขี้หมูและคนเข้าหมู)  ไปพาหมูออกมาจากบ้านและจะเพิ่มอุบายหลอกให้นำสมุดฝากเงินติด ตัวมาด้วยถ้ามี  โดยใช้เหตุผลหลอกลวงว่า  เสี่ยจะจ่ายมัดจำให้ครึ่งหนึ่งเป็นเงิน จำนวนมาก  จะได้นำเข้าธนาคารได้   
 
ในเช้าของวันที่จะทำการต้มตุ๋นนั้น  คนร้ายส่วนที่  1  (คนเข้าหมู)  จะเดินทางไปพบหมู ที่บ้าน  และหลอกลวงว่าเสี่ยคนที่จะซื้อสินค้าตามอุบายที่ติดต่อมาถึงแล้ว  ให้ไปพบเพื่อตกลงราคาขาย  และรับเงินมัดจำ  หมู หลงเชื่อเดินทางมากับคนเข้าหมู  โดยคนเข้าหมูจะพาไปยัง สถานที่นัดหมายของแก๊งคนร้ายส่วนที่  2  เมื่อแก๊งคนร้ายส่วนที่  1  (คนจูงหมู)  พาหมูไปถึง  ก็ จะพบผู้จัดการหนึ่งในคนร้ายส่วนที่  2  นั่งคอยอยู่ต่อไปนี้เป็นบทบาทการหลอกลวงของคน ร้ายส่วนที่  2  ที่ประกอบด้วยผู้จัดการ  เสี่ย  และเซียนพนัน(หรือคนเก่ง)  ซึ่งคนร้ายแต่ละคนของ แก๊งส่วนที่  2  จะแสดงบทบาทในรายละเอียดลักษณะนี้คล้ายคลึงกันทุกแก๊ง                                   
 
ในละครบทนี้  หมู  เป็นหญิงสูงอายุ  เพิ่งขายดินได้เงินมาหลายแสนบาท  กลุ่มคนร้าย รู้เข้าจึงจัดอุบายเข้ามาหลอกลวงติด