ปริศนาภาพยนตร์สารคดี
การผ่าศพมนุษย์ต่างด้าว


เมื่อปี ค.ศ.1995 มีภาพยนตร์ขาวดำเชิงสารคดีเรื่องหนึ่งโผล่มาฉายทางโทรทัศน์ กับภาพนิ่งจาก ภาพยนตร์เรื่องนี้ก็ถูกนำลงในหน้านิตยสารต่างๆ ทั่วโลก สร้างความเกรียวกราวฮือฮาแก่ผู้คน โดยเฉพาะนักยูเอฟโอวิทยา ด้วยภาพเหตุการณ์ที่น่าตื่นตะลึง เหลือเชื่อ ชวนฉงน

ภาพยนตร์เรื่องนี้คือ ALIEN AUTOPSY หรือการผ่าศพมนุษย์ต่างดาว ซึ่งแสดงเหตุการณ์ที่มีศพมนุษย์ต่างดาว รูปร่างขนาดเด็ก 10 ขวบ หัวโล้นเลี่ยน ตาโตลึก นอนเปลือยพุงโรอยู่บนโต๊ะผ่าตัด และมีแพทย์ในชุดขาว สวมถุงคลุมศีรษะแบบกันรังสีมิดชิดมาผ่าศพ แหวะอก ควักอวัยวะภายในมนุษย์ต่างดาวร่างนั้น ภาพยนตร์เรื่องนี้อ้างว่า ถ่ายทำจากเหตุการณ์จริงเมื่อปี 1947 ซึ่งลือกันว่ามี UFO ประสบอุบัติเหตุตกที่เมืองรอสเวล (ROSWELL) รัฐนิวเม็กซิโก สหรัฐอเมริกา โดยมีมนุษย์ต่างดาวนอนตายอยู่ในบริเวณใกล้เคียง 2 ศพ และทางรัฐบาลสหรัฐฯก็ได้นำซาก UFO กับศพมนุษย์ต่างดาวไปศึกษาอย่างลับๆ พร้อมกับปิดข่าวอย่างเงียบเชียบ

ต้นตอของภาพยนตร์ ALIEN AUTOPSY นี้คือ เรย์
ซานทิลลี
(RAY SANTILLI) ตากล้องวีดิโอมืออาชีพ
แห่งลอนดอน ซานทิลลีเล่าว่า เมื่อปี 1992 เขาเดินทางไป
สหรัฐอเมริกา เพื่อหาฟิล์มภาพยนตร์การแสดงของนักร้องรุ่น
เก่าๆ อย่าง เอลวิส เพรสลีย์ หรือ แพ็ท บูน ที่คลีฟแลนด์ รัฐ
โอไฮโอ ซานทิลลีได้พบกับบุรุษสูงวัยผู้หนึ่ง ซึ่งมีฟิล์มการแสดง
สดของเอลวิสที่เขาถ่ายทำด้วยตนเองเพราะเมื่อยังหนุ่มนั้นเขา
เคยมีอาชีพเป็นตากล้องอิสระ ต่อมาบุรุษสูงวัยผู้นี้ ก็ติดต่อมา
หาซานทิลลีอีก บอกว่ามีภาพยนตร์อื่นที่น่าสนใจจะเสนอขาย
ให้ เขาเล่าว่า ก่อนหน้าจะมายึดอาชีพตากล้องอิสระ เขาเคย
เป็นช่างกล้องประจำกองทัพสหรัฐฯมาก่อน ครั้งหนึ่งในปี 1947 เขาถูกพาขึ้นเครื่องบินไปยังเมืองรอสเวล เพื่อปฏิบัติงานเฉพาะกิจ
อย่างหนึ่ง แรกทีเดียว เขาถูกชี้นำไปให้เข้าใจว่า จะต้องไปถ่ายภาพสถานที่ที่เครื่องบินสอดแนม ของรัสเซียตก แต่พอไปถึงก็ได้เห็นว่า ซากเครื่องบิน ที่ประสบอุบัติเหตุนั้นไม่ใช่เครื่องบินรัสเซีย และไม่ใช่เครื่องบินแบบใดๆ ที่เขาเคยรู้จัก แต่เป็น UFO ยานนอกพิภพต่างหาก นอกจากจะได้ถ่ายทำภาพยนตร์ซาก UFO ที่รอสเวลแล้ว เขายังมีโอกาสถ่ายทำ การผ่าศพ มนุษย์ต่างดาวที่พบใกล้บริเวณ UFO ตกนั้นด้วย เขายังมีฟิล์มชุดนี้อยู่ในครอบครอง และเสนอขายแก่ซานทิลลี

เมื่อซานทิลลีได้ดูภาพยนตร์ที่ว่า ก็ตกลงใจซื้อฟิล์มเหตุการณ์
ทั้งหมดนั้น ซึ่งเป็นฟิล์ม 16 มม. ในราคาที่สูงถึง 150,000
เหรียญสหรัฐฯ (ประมาณ 6 ล้าน 3 แสนบาท) และตกลง
ตามเงื่อนไข ที่ว่าจะไม่เปิดเผยชื่อ บุรุษสูงวัยแห่งคลีฟแลนด์
ผู้เป็นเจ้าของฟิล์มโดยเด็ดขาดแล้วซานทิลลีก็นำฟิล์มดังกล่าว
กลับมาอังกฤษ และบันทึกลงไปเป็นเทปวีดิโอ เพื่อความสะดวก
ในการนำไปฉาย ซานทิลลีนำภาพยนตร์นี้ออกขายลิขสิทธิ์แก
่สถานีโทรทัศน์และนิตยสารต่างๆ ทั่วโลก เมื่อประมาณเดือน
สิงหาคม 1995 ซึ่งก็ได้รับความสนใจมากมาย ทำรายได้ให้ซานทิลลีโขอยู่ แต่ก็มีเสียงวิพากษ์วิจารณ์ต่างๆ ตามมาอย่างหนัก โดยเฉพาะอย่างยิ่งคนในวงการ UFOLOGY จานผีวิทยา ที่ส่วนใหญ่ไม่เชื่อถือภาพยนตร์เรื่องนี้ กล่าวหาว่าซานทิลลีเป็นนักต้มตุ๋น จัดฉากสร้างเรื่องขึ้นหลอกลวงผู้คนหวังผลกำไร ทั้งสองฝ่ายมีการยก หลักฐานมาพิสูจน์และลบล้างกันหลายแง่มุม ซึ่งดูเหมือนว่าฝ่ายไม่เชื่อถือ จะมีน้ำหนักมากกว่าอยู่หน่อยหนึ่ง

ลองมาดูกันว่า แต่ละฝ่ายมีพยานหลักฐานและข้ออ้างอะไรบ้าง

เรื่องแรกคืออายุของฟิล์ม ซานทิลลีอ้างว่าฟิล์ม 16 มม.
ของภาพยนตร์เรื่องนี้ ได้รับการพิสูจน์แล้วว่าเป็นฟิล์มที่
ผลิตขึ้นในปี1947จริงแต่ผู้เกี่ยวข้องในการพิสูจน์บอกว่า
มีการส่งฟิล์มให้พิสูจน์ แต่ไม่ยักใช่ส่วนที่มีเหตุการณ์ตอน
ผ่าศพมนุษย์ต่างดาว อย่างที่นำไปฉายทางโทรทัศน์ ฟิล์ม
ตอนสำคัญนั้นยังไม่ผ่านการพิสูจน์จ้ะ ผู้เชี่ยวชาญทาง
ภาพยนตร์และวีดิโอหลายคน ไม่เชื่อว่าซานทิลลีจะมีฟิล์ม
16 มม. ของภาพยนตร์เรื่องนี้อยู่จริง หากเชื่อว่าซานทิลลี
ถ่ายทำด้วยกล้องวีดิโอตั้งแต่แรกแล้วละ ไม่ใช่ฟิล์มเก่าฟิล์มแก่ที่ไหนดอก แต่แล้วซานทิลลีก็นำคนคนหนึ่งมาเปิดเผย ตัวว่าเป็นผู้ที่เคยเห็น เคยจับต้องฟิล์ม 16 มม. ของเขามาแล้ว เขาคือ แฟรงค์ ซาลาส (FRANK SALAS) ผู้เป็นช่างเทคนิค ที่ซานทิลลีว่าจ้างให้บันทึกฟิล์ม 16 มม. ลงเป็นวีดิโอเทป ซาลาสรับว่าได้เห็นและได้บันทึกเทปจากฟิล์มดังกล่าวจริง และฟิล์มนั้นก็ดูเก่าแก่ ทั้งบางตอนก็ชำรุดมากด้วย แต่เขาไม่อาจคะเนอายุของฟิล์มได้ เพราะไม่ชำนาญเรื่อง นี้ คำยืนยันของซาลาส ทำเอาพรรคฝ่ายค้าน อึ้งกิมกี่ไปบ้าง แต่ก็ยังเสียงแข็งว่า ถ้าซานทิลลีแน่จริง ก็เอาฟิล์มตอนสำคัญมาให้พิสูจน์สิ

ศพมนุษย์ต่างดาวในภาพยนตร์ก็เป็นจุดที่ถูกโจมตีมากอีกอย่างหนึ่ง ผู้เชี่ยวชาญทางสเปเชียล เอฟเฟกต์ ในวงการภาพยนตร์ ที่ผ่านมาหมดแล้ว ทั้งการสร้างศพขึ้นอืด แผลเหวอะหวะเลือดท่วม ผีปิศาจ สัตว์ประหลาด มนุษย์ต่างดาว ฯลฯ ดูภาพยนตร์ ALIEN AUTOPSY แล้ว สรุปว่า ภาพเหตุการณ์ทั้งหมดนั้นไม่มีตรงไหนเลย ที่ชาวสเปเชียลเอฟเฟกต์จะทำไม่ได้ บางคนที่ถี่ลอดตาเล็นยังบอกด้วยว่า ดูดีๆจะเห็นได้ว่าแขนข้างหนึ่งของ ศพมนุษย์ต่างดาว มีรอยตะเข็บเป็นแนวยาวอยู่ด้วย กับที่เศษซาก UFO ชิ้นหนึ่งก็มีอักษร VIDEO TV ปรากฏอยู่ บริษัททวินเอฟเฟกต์แห่งแคนาดายังลงทุนทำหุ่น ซากศพมนุษย์ต่างดาว ที่ถูกแหวะอกเห็นเครื่องในอล่างฉ่าง เหมือนในภาพยนตร์ของซานทิลลีให้ดูด้วยว่าทำเองก็ได้ ง่ายจัง และพากันวิจารณ์มนุษย์ต่างดาวของซานทิลลีว่าเป็น “หุ่นโพลีเอสเตอร์ราดซอสมะเขือเทศ” ส่วนฉากควักอวัยวะภายในนั้นหรือ “เท่าที่เห็นก็แค่ตับวัวสดจากเขียง”

อย่างไรก็ตาม ร็อบ ทาวน์เชนด์ (ROB TOWNSHEND) ผู้เชี่ยวชาญทางสเปเชียลเอฟเฟกต์ อีกคน ซึ่งผลงานล่าสุดคือภาพยนตร์ เรื่อง LORD OF THE RINGS นั้น ค่อนข้างจะเชื่อว่า ศพมนุษย์ ต่างดาวในภาพยนตร์ของซานทิลลีเป็น ของจริง เขากล่าวว่า หุ่นจำลองที่ทาง สเปเชียลเอฟเฟกต์ สร้างขึ้นนั้น ไม่ว่าจะใช้วัสดุดีเพียงใด และแต่งแต้มสีสัน ให้เหมือนจริงเท่าใดก็ตาม
มันก็ยังดู “หลอก” อยู่ดี แต่ศพมนุษย์ต่างดาวใน ALIEN AUTOPSY นั้น มีความเป็นธรรมชาติ มีลักษณะอย่างที่ศพควรจะเป็นทีเดียว จึงน่าเชื่อว่าเป็น “ของจริง”

ฝ่ายสนับสนุนยังมีพยานบุคคลที่น่าเชื่อถืออีก 2 ราย ที่อ้างว่าเคยเห็นภาพยนตร์นี้มาก่อน รายแรกคือ คลิฟฟอร์ด สโตน (CLIFFORD STONE) สิบเอกทหารผู้เกษียณอายุจากกองทัพในรัฐเวอร์จิเนีย ระหว่างอยู่ที่นั่น เขาและเพื่อนทหารอีกคน ชวนกันไปเดินเล่น และเจอเข้ากับห้องประชุมแห่งหนึ่งที่ถูกจัดเป็นโรง ภาพยนตร์ย่อมๆ กำลังฉายภาพยนตร์ที่ดูเหมือน จะเป็นแนววิทยาศาสตร์แฟนตาซี เพราะมีทั้ง UFO และร่างประหลาดที่มิใช่มนุษย์ ในห้องประชุมนั้นมี นายทหารชั้นผู้ใหญ่นั่งอยู่เต็ม แล้วสโตนกับเพื่อนก็ถูกจับได้ว่ามาแอบดูในสิ่งที่เขาหวงห้าม ทั้งสองถูกสั่งกำชับ อย่างหนักแน่นจริงจังเป็นพิเศษไม่ให้เปิดเผยเรื่องที่เห็นมาโดยเด็ดขาด

กระทั่งปี 1995 เมื่อสโตนได้ดูภาพยนตร์ ALIEN AUTOPSY ทางโทรทัศน์ จึงได้นึกถึงภาพยนตร์ที่เคยเห็นเมื่อ 20 กว่าปีก่อน และนำมาโยงเข้าด้วยกัน ก็ถึงบางอ้อ ว่าภาพยนตร์ที่แอบเห็นเมื่อครั้งกระโน้นคือ “อะไร” และทำไมจึงถูกกำชับกำชานักหนาว่า ให้ปฏิเสธไม่รู้ไม่เห็นอะไรทั้งนั้น สโตนเชื่อว่า ภาพยนตร์ที่ฟอร์ท เบลวัวร์ กับภาพยนตร์ของซานทิลลีคือม้วนเดียวกัน

ไมค์ มาโลนี (MIKE MALONEY) ชาวอังกฤษ ผู้เป็นช่างภาพ
มือทองแห่ง MIRROR GROUP NEWSPAPERS ซึ่งได้
รับรางวัลทางการถ่ายภาพมากมายจนจาระไนไม่หมด และเคยทำงาน
ให้บุคคลสำคัญๆ ทั่วโลกมาแล้ว เล่าว่า เมื่อปี 1970 เขาเดินทางไปทำ ข่าวที่อเมริกา และได้มีโอกาสดูภาพยนตร์การผ่าศพมนุษย์ต่างดาวที่ คล้ายกับภาพยนตร์ของ ซานทิลลีที่บ้านเพื่อนคนหนึ่ง ภาพยนตร์ที่เขาได้
ดู เป็นเหตุการณ์เดียวกันกับ ALIEN AUTOPSY แต่ดูเหมือน ว่าจะถ่ายจากคนะละมุม

พยานบุคคลทั้ง 2 รายนี้ ทำให้เหตุผลของฝ่ายที่เชื่อถือใน ALIEN
AUTOPSY มีน้ำหนักมากขึ้นพอดู แต่ฝ่ายค้านก็ว่า ประสบการณ์ ของคนทั้งสองนั้นเป็นเรื่องเฉพาะตัวที่ไม่มีหลักฐานยืนยันชัดเจน แถม
เรื่องก็เกิดมานานแล้ว อาจหลงๆ ลืมๆ จำผิดจำถูกอีกด้วย

ซานทิลลี ผู้กำกุญแจไขปริศนาในเรื่องนี้ยังคงยืนกระต่ายขาเดียวจนถึงสองขาว่า เขาได้ฟิล์มภาพยนตร์เรื่องนี้ อันเป็นฟิล์ม 16 มม. มาจากบุรุษนิรนามแห่งคลีฟแลนด์ ผู้เคยเป็นช่างกล้องประจำกองทัพสหรัฐฯ เขาเชื่อแน่ว่าเหตุการณ์ในภาพยนตร์เป็นเรื่องจริง ถ้าแม้ ไม่ใช่ศพมนุษย์ ต่างดาวแล้วไซร้ ก็ต้องเป็นศพผู้ถูกนำไปทดลองในโครงการสงครามเชื้อโรคจนวิกลวิการแน่ๆ ซานทิลลีบอกด้วยว่า เขายังมีฟิล์มภาพยนตร์ตอนอื่นๆ ในชุดเดียวกันนี้อีก ซึ่งมีทั้งที่เกี่ยวกับมนุษย์ต่างดาว และที่จะช่วยยืนยันถึงยุคสมัย รวมทั้งสภาพแวดล้อมของเหตุการณ์นั้น ซึ่งเขาอาจจะนำมาเผยแพร่ หากมีใครให้ราคาที่ “สมควร”